- Call Us: (02) 003-3781-2
- Email: info@tct.or.th
ลงนามในบันทึกความร่วมมือการศึกษาและพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลโดยใช้ฐานข้อมูลจากเลขหมายโทรศัพท์ และแนวทางการจัดตั้งบริษัท Mobile National ID (MNID)
(29 มกราคม 2563) สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย นายมนต์ชัย หนูสง นายกสมาคม ,นายสืบศักดิ์ สืบภักดี กรรมการบริหาร,รองเลขาธิการ และประธานคณะทำงานพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือการศึกษาและพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
โดยใช้ฐานข้อมูลจากเลขหมาย โทรศัพท์เคลื่อนที่ และแนวทางการจัดตั้งบริษัท Mobile National ID (MNID) ร่วมกับผู้ประกอบการโทรคมนาคมจำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นนวัตกรรมใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในการเพิ่มช่องทางในการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนหรือหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความสะดวก ปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นการส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในเรื่องการใช้ดิจิทัลไอดี ซึ่งมีผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด, บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูริเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
นายมนต์ชัย หนูสง นายกสมาคม กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าว ถือว่าสอดคล้องตามนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และยังสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการให้บริการการพิสูจน์และยืนยันตัวบัคคลด้วยระบบดิจิทัล โดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลการลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยระบบอัตลักษณ์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ในการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนหรือหน่วยงานต่างๆ สามารถใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายสืบศักดิ์ สืบภักดี กรรมการบริหาร ,รองเลขาธิการ และประธานคณะทำงานพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล กล่าวว่า ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะร่วมกันแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ และประสบการณ์ โดยอาจมีการทดลองรูปแบบการให้บริการในระบบ Sandbox เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง บริษัท Mobile National ID (MNID) โดยจะมีการศึกษาและกำหนดรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม ตลอดจนมีการร่างแผนธุรกิจร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งบริษัท MNID ให้ได้โดยเร็ว ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและจะใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายเกี่ยวกับการให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะพัฒนาระบบดังกล่าวในเบื้องต้น โดยที่ “แทนบัตร” หรือการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนที่บัตรประจำตัวในรูปแบบปกติ ซึ่งเป็นโครงการที่ สำนักงาน กสทช. ได้ริเริ่มขึ้น ก็จะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้ประกอบการโทรสัพท์เคลื่อนที่ ทั้ง 5 รายจะนำไปพิจารณาในการพัฒนาระบบ
ตัวแทนผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการสมัคร หรือการเข้าใช้บริการธุรกรรมต่างๆ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ขอใช้บริการมักจะต้องเดินทางไปที่สาขาของหน่วยงานนั้นๆ ต้องกรอกข้อมูลและเซ็นรับรองเอกสารต่างๆเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน ทำให้เกิดความไม่สะดวก เสียเวลา และมีความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะใช้เอกสารปลอม ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย การให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดย บริษัท Mobile National ID (MNID) จะเป็นนวัตกรรมทางเลือก ที่สามารถช่วยลดเวลา ขั้นตอน ค่าใช้จ่าย และช่วยลดความผิดพลาดต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตน อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน สามารถสมัครและใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็วและง่ายดาย ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอัตลักษณ์ เช่น ลายนิ้วมือ และใบหน้า ช่วยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดต่างๆ โดยเห็นว่าในปัจจุบัน ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเป็นเครื่องมือพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่แพร่หลายและเข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านโครงข่ายของผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย มีจำนวนมากถึง 130 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะทำให้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถใช้รองรับ Digital ID ได้